กวินท์-ปุ้มปุ้ย เล่าประสบการณ์ 18+ ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอเปิดซิงเธอได้เปล่า

เป็นคู่รักที่เปิดเผยเรื่องเซ็กซ์อีกคู่ สำหรับคู่ของ กวินท์ ดูวาล และ ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา ที่ล่าสุด ทั้งคู่จะมาเล่าประสบการณ์ 18+ ของตัวเอง กับการมีเซ็กซ์กันครั้งแรกให้ได้ฟังในรายการ ปุ้มปุ้ย กวินท์ ลิ้นกับฟัน “EP.2 : ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอเปิดซิงเธอได้ป่าว”

ซึ่งทีมงานก็เริ่มกับคำถามที่ว่า มีอะไรกันครั้งแรกรู้สึกอย่างไร คาดหวังกับเซ็กซ์ของกวินท์ว่าจะเป็นแบบไหน งานนี้ปุ้มปุ้ยตอบแบบฉะฉานว่าคาดหวัง ไปก็หวังผลว่ามันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่ากวินท์รักจริงหวังแต่งหรือเปล่า นางก็เลยไม่ค่อยตะกละตะกลาม ไม่ค่อยมูมมามกับเรื่องนี้เท่าไรภาพที่คาดหวังก็คิดว่าคนที่เต้นเก่งจะมีจังหวะเซ็กซ์ดี พอมีอะไรกันครั้งแรกก็ธรรมดา พอมีอะไรกันก็ทำเองดีกว่า เพราะกวินท์ดูไม่เป็นงาน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีนะที่เป็นผู้หญิงแล้วทำในครั้งแรก แต่เพราะความอยากก็เลยทำได้ (หัวเราะ) ตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะต้องได้เขา มันจะต้องเกิดขึ้นให้ได้ จากนั้นกวินท์ก็ขอเล่าบ้างว่าเห็นปุ้ยครั้งแรกในอินสตาแกรมแล้วรู้สึกว่านี่คือแม่ของลูก วันที่ชวนปุ้ยไปเที่ยวก็คิดว่าคนนี้แหละที่จะเอามาเป็นเมีย การกระทำมันจะแตกต่าง จะไม่เร่าร้อน ไม่ดึงผม ไม่ขี่ม้า มันจะเกรงใจเขา งานนี้ปุ้มปุ้ยถึงกับรีบบอกว่า อย่าเกรงใจงานนี้กวินท์ก็รีบเล่าต่อว่า และรู้สึกตื่นเต้นเพราะได้ไปเที่ยวกับปุ้ยครั้งแรก กวินท์จีบปุ้ยอยู่ 2 ปีกว่าจะได้คุยกัน จะกี่ปีก็ตามแต่มันนานกว่าจะจีบติด แล้วอยู่ดีๆ ได้ไปเที่ยวกับเขา ได้ไปนอนกับเขา ก็ไม่ได้อยากให้เขาคิดว่าเราเป็นคนเจ้าชู้เพราะคนคิดว่าเราเป็นคนเจ้าชู้อยู่แล้วตอนนั้นคนมองว่าเราได้ผู้หญิงแล้วทิ้ง ความรู้สึกครั้งแรกคือตื่นเต้นมากๆ ที่ได้นอนกับเขา ตอนนั้นเมาด้วย ถ้าไม่เมาก็คงไม่ได้กัน ก็เหมือนเด็กอายุ 14 ที่กำลังมีอะไรกับคนที่โตกว่า

กวินท์-ปุ้มปุ้ย เล่าประสบการณ์

เมื่อทีมงานถามกวินท์ว่านึกถึงภาพปุ้ยกับเซ็กซ์ไว้แบบไหน กวินท์ตอบว่าไม่ได้คิด เพราะตอนแรกทักไปคุยกับเขา เขาปฏิเสธบ่อยๆ

จนรู้สึกท้าทายว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดางานนี้ปุ้มปุ้ยถึงกับแอบขำที่เพิ่งรู้ว่ากวินท์ตื่นเต้นที่ได้มีเซ็กซ์กับตัวเองครั้งแรก เพราะคิดว่ากวินท์น่าจะผ่านผู้หญิงมาโชกโชนไม่คิดว่าเขาจะตื่นเต้น ก่อนที่ปุ้มปุ้ยจะลงรายละเอียดเรื่องการมีเซ็กซ์ครั้งแรกกับกวินท์จนสามีต้องเบรกให้เบาๆ ด้วยความอายจากนั้นทีมงานถามต่อว่า หลังจากที่มีอะไรกันความรู้สึกเปลี่ยนไปมั้ย ปุ้มปุ้ยเล่าว่า ไม่เปลี่ยนเพราะไม่ได้คาดหวังอะไรด้วยคิดแค่จะมีอะไรกันแล้วก็ไม่ได้อะไรต่อ มันเป็นข้อดีของปุ้ยที่ไม่เอาร่างกายไปผูกติดกับความสัมพันธ์เราเป็นผู้หญิงจะถูกสอนมาให้รักนวลสงวนตัว ถ้าให้ผู้ชายไปแล้วจะเห็นว่าเราง่าย อันนี้ปุ้ยไม่เห็นด้วย ถ้ามีอะไรกับผู้ชาย เราไม่ได้เสียตัว เราได้กัน เพราะฉะนั้นพอมีอะไรกันก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูกลดทอนคุณค่าอะไรในตัวเอง ไม่ได้ไปทำตัวเกาะติดเขา กลัวว่าเขาจะทิ้ง ไม่มีเลย ก็ทำเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่สำหรับกวินท์ตอบว่าตัวเองนั้นรู้สึกกับปุ้มปุ้ยมากขึ้น เพราะเคยมีความรักแล้วไม่สมหวัง ก็เลยคิดว่าจะเป็นคนไม่มีหัวใจ แต่พอได้เจอปุ้ยก็รู้สึกว่าอยากคุยอยากโทร เพราะมองว่าเซ็กซ์มันสำคัญกับชีวิตรัก ก็เริ่มโทรหาปุ้มปุ้ยบ่อยขึ้น ไลน์หาบ่อยขึ้น อยากคุยกับเขามากกว่าวันไนต์สแตนด์ วันที่ไปเชียงใหม่ขอปุ้ยแต่งงาน ร้องไห้อยู่หน้าผับปุ้มปุ้ยเล่าต่อว่า เวลาที่มีอะไรกับผู้ชายเร็วก็รู้สึกแย่อยู่เหมือนกัน มันถูกปลูกฝังว่าต้องรักนวลสงวนตัว ก็รู้สึกผิดถ้าออกเดตแล้วมีอะไรกัน เหมือนทำบาปแย่ในใจลึกๆ แต่ปุ้ยไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายที่เพิ่งคบในทันทีนะ เพราะต้องถูกใจและมีการพูดคุยและชอบกันก่อนถึงจะยอมมีอะไรด้วย ปุ้ยไม่เคยมีวันไนต์สแตนด์ ส่วนกวินท์บอกว่าสำหรับผู้ชายจะคิดว่าผู้หญิงที่ยอมมีอะไรด้วยเร็วจะทำให้คิดว่าผู้หญิงคนนี้เขาเป็นผู้หญิงแบบไหน ถ้าวันไนต์สแตนด์ผมไม่คบเพราะผู้หญิงแบบนี้ถ้าเราเอามาเป็นเมียเขาก็อาจจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นก็ได้ ไม่ใช่แค่ผู้ชายคิดนะ ผู้หญิงก็คิดว่าผู้ชายที่วันไนต์สแตนด์กับเราเขาก็ไปทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นได้เหมือนกัน แค่นานไปก็ไม่ดี ต้องมีความพอดี ต้องมีตรงกลางจากนั้น ปุ้มปุ้ยก็เล่าต่อว่า สำหรับตัวเองไม่ติดกับการที่ผู้ชายจะผ่านผู้หญิงมากี่คนแล้ว เพราะไม่มีผลต่อที่จะทำให้มองเขาในด้านลบ เพราะต้องการคนเก่ง คนกล้า ต้องการนักรบ และปุ้ยเป็นคนไม่ค่อยรื้อฟื้นอดีต ส่วนกวินท์ก็ไม่ได้สนใจว่าปุ้ยจะผ่านมากี่คน ไม่ได้อยากรู้ กลัวช็อกแต่เรื่องนี้ก็สำคัญมันทำให้เรารู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนแบบไหน ถ้าเขาผ่านมาพันคน เราจะรู้เลยว่าเขาไม่ซื่อสัตย์กับเรา แต่ถ้าเขามาซื่อสัตย์กับเรามันอาจจะดีก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่คนแรกของกันและกันก็ไม่ซีเรียส มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนแรก เพราะต้องคบกันตั้งแต่ ม.ปลาย ซึ่งหายากมาก

แนะนำข่าวบันเทิง   อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : “มิลลี่” ชวนทุกคนมา “อยู่คนเดียวด้วยกันไหม”